มะยงชิด ผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดนครนายก ที่มีรสชาติอร่อย หนึ่งปีให้ผลผลิตเพียงครั้งเดียว ขายได้ราคาดี ปีไหนสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ผลผลิตน้อยหรือติดผลไม่ดี ราคาพุ่งไปถึงกิโลกรัม 300-500 บาทเลยทีเดียว และถ้าจะพูดถึงเทคนิคการผลิตมะยงชิดคุณภาพ คงไม่มีใครไม่รู้จักกูรูด้านมะปรางหวาน-มะยงชิดที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี อย่างดาบนวย หรือ ร.ต.ต อำนวย หงส์ทอง นายกสมาคมชาวสวนมะปรางนครนายก แห่งสวนนพรัตน์ ที่รู้จักกันในฐานะผู้ค้นพบและทดลองใช้หลอดไฟติดที่ต้นมะยงชิด เพื่อเร่งการออกดอก
เทคนิคการติดหลอดไฟ เพื่อเร่งการออกดอกติดผล...มะยงชิด
ดาบนวย ได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายส่งเสริมการการขาย (คุณวรวุธ) ของเราฟังว่า มะยงชิดเป็นไม้ผลที่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ถ้าปีไหนอากาศร้อนหรือหนาวเกินไปก็จะออกดอกน้อยหรือไม่ออกดอกเลย โดยปกติถ้ามีสภาพอากาศที่เหมาะสมมะยงชิดก็จะแทงช่อเป็นปกติอยู่แล้ว คือ มีอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน พออากาศอุ่นขึ้นมา คือมีอุณหภูมิประมาณ 25 องศาเซลเซียส ประมาณวันที่ 8-9 (หลังจากหนาวติดต่อกัน) ก็จะเริ่มแทงช่อ แต่ด้วยปัจจุบันสภาพอากาศแปรปรวน อาศัยธรรมชาติอย่างเดียวไม่พอ ต้องใช้ตัวช่วยอย่างเช่นการเปิดไฟให้กับต้น พบว่าช่วยเร่งการแทงช่อออกดอกได้ เทคนิคนี้ดาบนวยบอกว่าค้นพบโดยบังเอิญ
ซึ่งการติดไฟที่ต้นจะต้องติดให้ไฟส่องสว่างทั่วถึงทั้งต้น จึงจะออกช่อดอกเต็มต้น และให้ผลดก ถ้าต้นใหญ่จะใช้ประมาณ 2-3 หลอด ขึ้นอยู่กับขนาดต้นและขนาดทรงพุ่ม การเปิดไฟจะสังเกตจากสภาพอากาศ ถ้าหมดฝนเข้าสู่ช่วงหนาว (ประมาณเดือนพฤศจิกายน-มกราคม) จะเริ่มเปิดไฟ เปิดติดต่อกันเป็นเวลา 9 วัน ตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึงเช้า ทำแบบนี้ไล่กันไปจนทั่วทั้งสวน
ทั้งนี้การเปิดไฟให้กับต้นมะยงชิดไม่ใช่ปัจจัยเดียวจะทำให้ออกดอก ติดผล จะต้องมีการเตรียมต้นให้พร้อม มีการสะสมอาหารอย่างเพียงพอพร้อมต่อการออกดอก ใบแก่เต็มที่ สมบูรณ์ หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตต้องมีการตัดแต่งกิ่ง บำรุงต้นด้วยปุ๋ยคอก ปุ๋ยทางดิน และธาตุอาหารเสริมอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะช่วงสะสมอาหารเมื่อก่อนจะใช้วิธีการใส่ปุ๋ยทางดินสูตร 8-24-24 แต่ปัจจุบันจะใช้วิธีการพ่นปุ๋ยทางใบ นูแทค ซุปเปอร์-เค ทดแทนซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ประหยัดเวลา เนื่องจากจะพ่นไปพร้อมกับการพ่นสารป้องกันกำจัดโรค และแมลงได้เลย
หลังจากสะสมอาหารอย่างเพียงพอ มะยงชิดก็จะแทงช่อดอก และเริ่มติดผล ในช่วงนี้ก็ต้องบำรุงดีๆ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาดาบนวยได้ใช้ชุดขยายขนาดผลของบริษัท โซตัสฯ (ใช้ นูแทค ไฮ-เอ็น ร่วมกับ เกอมาร์ เอ็กซ์แอล และ โฟแมกซ์ คัลเซียมโบรอน 400) โดยการแนะนำของน้องวุธ พบว่า มะยงชิดผลใหญ่ขึ้น ผลสวย รู้สึกชอบและพอใจมาก คาดว่าฤดูนี้ก็จะใช้อีกครั้ง และยังได้บอกอีกว่าการใช้ นูแทค ซุปเปอร์ – เค ในช่วงก่อนเก็บเกี่ยวช่วยให้มะยงชิดมีผิวสวย
นอกจากการบำรุงต้นแล้วจะต้องมีการระวังเรื่องโรคและแมลงด้วย โดยเฉพาะราดำ และโรคแอนแทรคโนส เพราะจะทำให้ช่อดอกเสียหาย ดอกร่วง ติดผลไม่ดี ควรพ่นสารป้องกันกำจัดเชื้อราป้องกันการเกิดโรคไว้ก่อน และระวังเรื่องแมลงศัตรู เช่น เพลี้ยไฟ แมลงวันทอง เป็นต้น
สุดท้ายนี้สำหรับผู้ที่สนใจจะปลูกมะยงชิด ดาบนวยฝากไว้ว่า ให้ค่อยๆ เรียนรู้ รู้สภาพอากาศ คอยติดตามข่าวสารสภาพอากาศจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อนำมาวางแผนการผลิตของเรา รู้จักพืชที่เราปลูก หมั่นเข้าแปลง มีการจดบันทึก เพราะข้อมูลจะช่วยให้เราสามารถวางแผนได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ และที่สำคัญ อย่ายึดติดกับอะไรเดิมๆ เรียนรู้และพัฒนาเทคนิคใหม่ๆ เสมอ
รู้หรือไม่...
มะยงชิดของจังหวัดนครนายก (อ.เมือง, อ.บ้านา, อ.ปากพลี และ อ.องครักษ์) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพืช GI (ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ คือ เครื่องหมายที่ใช้กับสินค้าที่มาจากแหล่งผลิตที่เฉพาะเจาะจง) ซึ่งได้แก่พันธุ์ ทูลเกล้า พันธุ์บางขุนนนท์ พันธุ์ชิดสาลิกา พันธุ์ทูลถวาย และพันธุ์ชิดสง่า ลักษณะของมะยงชิดจะมีผลใหญ่ รูปทรงไข่ ผลดิบมีสีเขียวอ่อน ผลสุกมีสีเหลืองส้ม เนื้อแน่น เม็ดลีบสีน้ำตาลอ่อน รสชาติหวานอมเปรี้ยว หอมกรอบ เนื้อหนา
สนใจข้อมูล หรือ ความรู้เพิ่มเติมด้านการเกษตรสามารถเข้าไปดูได้ที่
Line@ ID: goo.gl/oezFiy หรือ พิมพ์ @sotus
Facebook : https://www.facebook.com/sotus.int/
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCr0T_masJxA8_h5Y9xM5vdw