เพลี้ยหอยเกล็ดขาว

            เพลี้ยหอยเกล็ดขาว (white mussel scale หรือ cassava scale)  มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Aonidomytilus albus (Cockerell) อยู่ในวงศ์ Diaspidae อันดับ Hemiptera เป็นแมลงปากดูดขนาดเล็ก โดยมีมันสำปะหลังเป็นพืชอาหารหลัก พืชอาหารอื่น เช่น มะละกอ มะม่วง เบญจมาศ กุหลาบ ไมยราบ และต้นไม้กวาด ขณะนี้มีการระบาดทำความเสียหายอย่างรุนแรงกับมันสำปะหลังในหลายจังหวัดของภาคอีสาน ทั้งในมันสำปะหลังปลูกใหม่อายุ 1-3 เดือน และมันสำปะหลังที่ลงหัวแล้ว

ลักษณะทั่วไป

            เพลี้ยหอยเกล็ดขาวเพศเมีย จะเกาะอยู่กับที่เพื่อดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช มีรูปร่างเรียวยาว เกล็ดคลุมลำตัวมีลักษณะคล้ายหอยแมลงภู่ มีสีขาวถึงน้ำตาล โดยปลายด้านหนึ่งจะมีคราบเก่าติดอยู่เป็นสีน้ำตาลเข้ม ขนาดเล็กยาวประมาณ 1.8-2.5 มิลลิเมตร ตัวเพลี้ยหอยมีสีเหลืองอยู่ภายใต้เกล็ด ตัวอ่อนวัยที่ 2 ของเพศผู้ลักษณะคล้ายเพศเมียแต่ขนาดเล็กและแคบกว่า ยาวประมาณ 1.0-1.5 มิลลิเมตร หลังลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยจะพักตัวอยู่ภายใต้เกล็ดระยะหนึ่งก่อนออกมาหาเพศเมียเพื่อผสมพันธุ์ ตัวเต็มวัยเพศผู้มีปีก 1 คู่ ขา หนวด และอวัยวะสืบพันธุ์เจริญดี ตัวอ่อนวัยที่ 1 (crawler) เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว เป็นระยะที่แพร่กระจายได้ดีโดยปลิวไปตามลม แต่ตายง่ายหากไม่สามารถหาพืชอาหารได้อย่างรวดเร็ว

ลักษณะการทำลาย

            เพลี้ยหอยเกล็ดขาวจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากลำต้น กิ่งแขนง ก้านใบ รวมทั้งใต้ใบ ทำให้ใบมีสีเหลืองซีด แห้ง และใบร่วง หากระบาดรุนแรงตัวเพลี้ยจะสามารถขึ้นปกคลุมส่วนของพืชได้ทั้งหมด โดยอาจเข้าทำลายบริเวณโคนต้นและส่วนรากที่อยู่ไม่ลึกจากผิวดินได้ด้วย การดูดกินน้ำเลี้ยงอาจทำให้ลำต้นแห้งตาย หรือฉีกหักได้ง่ายเมื่อมีกระแสลม และบางต้นอาจแตกกิ่งแขนงมากขึ้นทำให้มีลักษณะเป็นพุ่ม ราก (หัวมัน) ของต้นที่ถูกทำลายจะโตช้าและมีคุณภาพลดลง โดยปกติในระยะแรกจะระบาดเป็นหย่อมรอบ ๆ ต้นหรือท่อนพันธุ์ที่มีเพลี้ยหอยติดมา แล้วจึงแพร่กระจายไปทางด้านใต้ลมอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในแปลงที่ปลูกถี่ มีลำต้นหรือใบใกล้ชิดติดกัน

การจัดการ

  1. ใช้ท่อนพันธุ์ที่สะอาดปราศจากทุกระยะของเพลี้ยหอยเกล็ดขาว หลีกเลี่ยงการนำท่อนพันธุ์จากแหล่งที่มีการระบาดเข้ามาภายในพื้นที่ หากจำเป็นอาจแช่ท่อนพันธุ์ก่อนปลูกด้วยสารเคมี ไทอะมีโธแซม อัตรา 4 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ อิมิดาโคลพริด อัตรา 4 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร

  2. เว้นระยะปลูกให้เหมาะสม เนื่องจากการปลูกถี่จะทำให้เพลี้ยหอยเกล็ดขาวแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว

  3. อนุรักษ์และส่งเสริมด้วงเต่าลายซึ่งเป็นศัตรูธรรมชาติที่สำคัญของเพลี้ยหอยเกล็ดขาว

  4. ทำความสะอาดแปลงหลังเก็บเกี่ยวและเว้นระยะอย่างน้อย 3 วันก่อนปลูกรอบใหม่ หรือปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อกำจัดตัวอ่อนวัยที่ 1

  5. หมั่นสำรวจแปลงอย่ำงสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หากพบการระบาดให้ใช้ไวท์ออย อัตรา 50 มิลลิลิตรกับสารเคมีไทอะมีโธแซม หรือ อิมิดาโคลพริด อัตรา 4 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร โดยผสมในปริมาณน้อย ๆ คนให้ละลายเข้ากันดีก่อน จึงเติมน้ำให้ได้ปริมาตรตามต้องการ

เอกสารประกอบการเรียบเรียง

https://www.cabi.org/isc/datasheet/5854#BC133DAA-781A-47B6-BF65-8FC3399AB6E4

https://www.plantwise.org/KnowledgeBank/Datasheet.aspx?dsid=5854

https://www.opsmoac.go.th/chachoengsao-warning-files-411091791001

https://plantix.net/plant-disease/en/800047/cassava-scale

 


สนใจข้อมูล หรือ ความรู้เพิ่มเติมด้านการเกษตรสามารถเข้าไปดูได้ที่

Line@ ID: goo.gl/oezFiy หรือ พิมพ์ @sotus

Facebook : https://www.facebook.com/sotus.int/

Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCr0T_masJxA8_h5Y9xM5vdw